ผมเพิ่งได้นอนค้างคืนที่โรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิตเมื่อปีที่แล้วนี่เอง หมายถึง ถ้าไม่นับตอนแรกเกิดน่ะ และการต้องนอนโรงพยาบาลทำให้ผมเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายมากขึ้น ถ้าจะบอกว่ากลัวตายก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่กลัวเจ็บป่วยน่ะใช่อยู่
จริงๆผมออกกำลังกายมาตลอด ออกจนเป็นความเคยชิน ฟุตบอล และจักรยานคือกิจกรรมที่ผมทำบ่อยที่สุด ไม่เคยเว้นว่างเป็นระยะเวลานานๆจนกระทั่งจบมหาวิทยาลัย
ด้วยชีวิตในกรุงเทพ และชีวิตการทำงานที่ไม่อำนวยให้ออกกำลังกายเท่าไหร่นัก ทำให้ผมห่างหายจากการออกกำลังกายไปเกือบ 2 ปี เป็น 2 ปีแรกของการก้าวสู่วัยทำงาน เป็น 2 ปีที่ห่างหายจากกีฬา อาจจะไม่ใช่แค่เพราะ เรื่องงานเท่านั้นที่ทำให้ผมไม่มีเวลาเล่นกีฬา แต่เพราะผมเรียนหนังสือในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย พูดให้ถูกต้องน่าจะ ต้องบอกว่า แทบไม่มีเวลาทำกิจกรรมอื่นนอกจาก กิน ขี้ ทำงาน และเรียน
สมัยเป็นเด็ก การออกกำลังกายคือกิจกรรมที่ทำเพื่อความสนุกสนาน ดังนั้น กีฬาประเภทวิ่ง จึงไม่อยู่ในความคิดของผม เพราะมันค่อนข้างน่าเบื่อ ไร้จุดมุ่งหมาย
แต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน กลับพบว่า การวิ่ง เป็นวิธีออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ ไม่ต้องมีเพื่อนร่วมเล่น เป็นการบริหารระบบหายใจที่ยอดเยี่ยม จะติดขัดนิดหน่อยก็ตรงที่ต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมในการวิ่งเท่านั้น
ผมเริ่มคิดอยากจะวิ่ง เพราะได้อ่านหนังสือ “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” ของนักเขียนญี่ปุ่นที่ชื่อ ฮารูกิ มูราคามิ ผมไม่ถนัดอ่านวรรณกรรมเท่าไหร่นัก แต่เมื่ออยากลองอ่านหนังสือของนักเขียนชื่อดัง เพื่อรับรู้ความสามารถของนักเล่าเรื่องที่ผู้อ่านทั่วโลกชื่นชอบ ผมเลยเลือกเล่มที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับผมมากที่สุด
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนั้นจบ ผมก็ได้รู้ว่า “มูราคามิชอบดื่มเบียร์ยี่ห้อซามูเอล อดัมส์” (เป็นเบียร์ที่หากินยากในประเทศไทย แต่ไม่ยากถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯ) เหมือนกับผม อ้าว
ผมไม่ได้คิดที่จะวิ่งเพื่อลงแข่งรายการใดๆ แม้การวิ่งจบมาราธอนแบบมูราคามิจะดูเท่ดี แต่ผมเป็นคนขี้เกียจ ไม่สามารถวิ่งในระยะเวลานานๆได้ ทุกวันนี้ผมเลยพยายามวิ่งให้ได้วันละครึ่งชั่วโมง เอาให้แค่เวลาเตะฟุตบอลกับเพื่อนทุกวันอังคารไม่เหนื่อยจนหอบ และไม่เป็นภาระของเพื่อนร่วมทีม(ไปกว่านี้)เท่านั้น
(ในหนังสือบอกไว้ว่า มูราคามิลงมาราธอนปีละ 1 ครั้ง และเขาเคยลงอัลตร้ามาราธอนมาแล้วหนึ่งที อัลตราฯ คือ 100 กิโลเมตร)
ทุกวันนี้ นอกจากวิ่ง ผมเล่นเวทเทรนนิ่ง และเตะฟุตบอลด้วย บางสัปดาห์มีนัดถีบจักรยานกับเพื่อน แต่ทริปถีบจักรยานกับเพื่อนดูเหมือนจะให้น้ำหนักที่อาหารมากกว่าการปั่นเพื่อให้เกิดการเผาผลาญ ผมเคยพยายามเล่นโยคะด้วยตัวเองมาแล้ว และรู้สึกดีกับกิจกรรมนี้ แต่ไม่มีความต่อเนื่องในการเล่นซะเอง เกมส์กีฬาก็พยายามหามาเล่น แต่บางทีการเปิดเครื่องก็ยากกว่าการเปิดกระป๋องเบียร์
การฝึกเขียนบ่อยๆก็เหมือนการวิ่งบ่อยๆ มันทำให้ร่างกายเคยชินกับการคิด และการถ่ายทอด เหมือนกับการที่ขาได้รับรู้ซึ่งความเจ็บปวด และปอดได้ฝึกฝนให้ทำงานสัมพันธ์กับหัวใจ
เมื่อร่างกายคุ้นกับสิ่งที่เราบังคับชิน สิ่งที่จะได้รับคือ ความแข็งแกร่ง ทนทาน เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์เฉพาะหน้าอันหนักหนา ที่อาจจะรู้สึกแทบรับไม่ไหวเมื่อครั้งร่างกายยังปวกเปียก เราก็จะสามารถผ่านมันไปได้อย่างสบายในตอนนี้
ผมบอกกับคนหลายคนที่ขอคำแนะนำเรื่องการเขียนจากผมว่า ให้เขียนเป็นประจำ เขียนให้บ่อย ถึงผมจะเขียนไม่เก่ง แต่การเขียนบ่อยๆ ทำให้ผมไม่เคยตีบตันในสักวัน อย่างน้อยที่สุด ผมก็สามารถเขียนข่าวที่ผมต้องเขียนได้โดยไม่ลำบากนัก
เขียนได้อย่างเกือบอัตโนมัติ เขียนได้ในหลายสภาวะแวดล้อม ไม่ยึดติดกับความสงบหรือความสบายใดๆ ไม่ยึดติดกับสถานที่ไหนๆ
“เขียนไปสิ เขียนทุกวัน เดี๋ยวก็ได้เอง” เป็นวิธีคิดของผม ถึงมันจะห่วยในตอนนี้ แต่เชื่อแน่ว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ผมคิดเรื่องการเขียนแบบเดียวกับการออกกำลังกาย ดังนั้นผมจึงออกกำลังกายให้บ่อย เพื่อเตรียมไว้สำหรับวันที่ต้องใช้งานหนัก อย่างน้อยก็หวังว่าผมจะไม่เจ็บปวด เจ็บป่วยง่ายๆ
ถึงตอนนี้ หลังจากที่ผมเข้าโรงพยาบาลไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ทุกวันนี้ ผมตั้งใจออกกำลังกายมากขึ้น เท่าที่จำได้ผมยังไม่เคยเจ็บป่วยอีกเลย ไม่เคยเป็นไข้หวัด อาจมีท้องเสียบ้าง แต่ไม่เคยหนักหนาสาหัส ผมรู้สึกว่าผมแข็งแรงมากกว่าที่เคยเป็น
ด้วยลักษณะงานที่บริหารเวลายากอย่างงานข่าว ผมรู้สึกว่า นักข่าวต้องแข็งแรง กระเป๋ากล้องและคอมพิวเตอร์มีน้ำหนักหลายกิโลกรัม หากร่างกายไม่แข็งแรงพอน่าจะทำให้เราเจ็บป่วยได้ง่ายๆ เมื่อต้องแบบกระเป๋าหนักๆตลอดวันกลางแดดร้อน การนอนดึก ตื่นเช้า สลับไปมาอย่างไร้ระเบียบ เป็นอีกปัจจัยที่รบกวนสุขภาพ ไหนจะกาแฟ และเบียร์ที่ต้องกินเพื่อเข้าสังคมอีก ถ้าร่างกายเราไม่ดีก็คงแย่
พอถึง “ถ้าร่างกายเราไม่ดีก็คงแย่” เริ่มพบว่า งานเขียนชิ้นนี้กลายเป็น แอ๊ดเวอทอเรี่ยว เหมือนกำลังจะขายวิตามินบำรุงร่างกาย หรือเครื่องมือออกำลังกายอะไรสักอย่าง ดังนั้นเพื่อความรวบรัด ขอจบแต่เพียงเท่านี้ สำหรับการฝึกเขียนเพื่อฝึกมือ
Fit : ข้อเขียนสุขภาพ ที่อาจมีคำหยาบปะปน
เรื่องและภาพ: Gengo Serkinov. ชื่อรัสเซีย กินเบียร์ต่างน้ำ นักข่าวบ้ากาม ตามข่าวไม่ทัน
Comments